HAPPY NEW YEAR 2016!

TOON
Jan 5, 2016
2 min read

HAPPY NEW YEAR 2016 !! สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน ไปเที่ยวกันมาสนุกรึเปล่าเอ่ย หรือถ้าคนไหนไม่ได้ไปเที่ยวก็คงจะได้พักผ่อนกันจนเต็มอื่มใช่มั้ยครับ?

ในช่วงปีใหม่แบบนี้ หลายๆคนก็เริ่มคิดว่าจะมีจุดไหนบ้าง ที่เราจะปรับปรุงแก้ไขในปีนี้ สังเกตได้จากโพสต์เกี่ยวกับ New Year Resolutions เต็มหน้า Facebook ไปหมด

ส่วนตัวตูนเองก็มีเป้าหมายที่ตั้งใจว่าจะต้องทำให้ได้ในปีนี้เหมือนกันครับ ทั้งตั้งใจว่าจะออกกำลังกายให้มากขึ้น กินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น (ฮะ! อะไรนะ? เฟรนช์ฟรายลด50%) แล้วก็เรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้มากขึ้น และที่สำคัญคือจะต้องประหยัดให้มากกว่านี้!! แต่สำหรับใครที่รู้สึกเคว้งคว้าง หรือไม่รู้ว่าจะทำให้ปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วอย่างไรแล้วล่ะก็ วันนี้ตูนมีเป้าหมายสำหรับปีใหม่ที่น่าจะเหมาะกับหลายๆคนมานำเสนอ โดยแบ่งเป็นช่วงอายุคร่าวๆตามนี้ครับ

สำหรับคนที่อายุ 20 ต้นๆ:

1. หางานทำ

สำหรับคนอายุช่วงนี้ที่พึ่งจะเรียนจบ การหางานทำควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆที่ควรทำ ลองใช้เว็บไซต์หางานเพื่อค้นหางานที่เรารู้สึกว่าน่าทำดู หรือถ้าใครไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ ให้ลองถามรุ่นพี่หรือคนใกล้ตัวดู ว่างานที่เค้าทำเป็นอย่างไร ไม่แน่ คุณอาจจะพบว่ามันน่าสนใจก็ได้

2. “Spend what is left after saving.” — Warren Buffet (ใช้เฉพาะเงินส่วนที่เหลือจากการออมแล้วเท่านั้น)

ตอนที่เงินเดือนจากการทำงานเดือนแรกออก ตูนใช้มันหมดไปอย่างรวดเร็วกับเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่อยากได้มานาน รวมทั้งอาหารร้านหรูที่อ่านรีวิวในพันทิปว่าเด็ดมาแล้วหลายครั้ง ตูนคิดเสมอว่า เรายังเด็กอยู่ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวค่อยเริ่มออมเงินก็ได้

ผ่านไปไม่ก็เดือน เพื่อนๆหลายคนที่เริ่มทำงานในระยะๆใกล้ๆกัน เริ่มมีเงินเก็บเยอะจนเหลือเชื่อ จนทำให้ตูนต้องหันกลับมาดูตัวเอง ว่ามัวทำอะไรอยู่ เพราะเรากำลังเดินเข้าใกล้วัยเกษียณเข้าไปทุกวันๆ ถึงตอนนั้นเราจะอยู่รอดหรอ

เวลาผ่านจากตอนนั้นมาเกือบปี พร้อมกับเงินเก็บที่มีมากขึ้น(บ้าง) คิดๆย้อนกลับไปแล้วก็เสียดาย พูดเลย! ยิ่งออมไวเท่าไหร่ยิ่งดี เริ่มเลย รออะไร

สำหรับคนอายุ20 กลางๆ:

3. อย่าลืมออกกำลังกาย!!

จริงๆเรื่องการออกกำลังนี่น่าจะเป็นเป้าหมายปีใหม่ที่ท็อปฮิตที่สุดนะครับ

ตูนรู้ได้ยังไงน่ะหรอ? ก็นอกจากหน้าFacebook ที่เต็มไปด้วยเรื่องประมาณว่า “..ปีนี้จะผอมให้ได้” หรือ “เราคนใหม่2016” (พร้อมรูปใส่ชุดออกกำลังกาย ) สิ่งนึงที่เห็นได้ชัดเจนคือ ทุกวันจันทร์แรกของปี ฟิตเนสจะแน่นมากกกกกก แน่นไปด้วยคนหน้าใหม่มากมายที่เคยเห็นมาก่อน แตกต่างกับช่วงสิ้นปีสุดๆ

แต่ก็เอาเถอะ ถ้าคุณยังไม่เริ่มออกกำลังกายล่ะก็ จริงๆแล้วปีใหม่ก็เป็นเวลาที่ดีนะ ที่จะเริ่มสักที เริ่มง่ายๆด้วยการวิ่งบนเครื่องวิ่ง หรือเดินบนเครื่องEllipticalซักครั้งละ20นาที สัปดาห์ละ2ครั้ง แล้วค่อยๆเพิ่มระยะเวลาและความถี่ให้มากขึ้น รับรองก่อนหมดปีนี้ คุณจะต้องเห็นความแตกต่างอย่างแน่นอน

และที่สำคัญ การออกกำลังกายไม่ได้ต้องซื้อเสื้อผ้าออกกำลังกายแพงๆมาใส่ก็ได้นะครับ ตูนไม่ได้ห้ามไม่ให้ซื้อ(ตูนก็ซื้อครับ ฮ่าๆ) แต่ตูนใช้วิธีตั้งเป้าหมายและให้รางวัลกับตัวเองมากกว่า เช่น ถ้าลดน้ำหนักได้ 2 กิโล จะซื้อกางเกงและเสื้อออกกำลังกายตัวใหม่ให้เป็นรางวัลกับตัวเอง วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้สึกมีแรงกระตุ้นมากกว่าการตั้งเป้าเรื่องการลดความอ้วนอย่างเดียว และที่สำคัญ เมื่อคุณได้ไอเท็มใหม่มาแล้ว มันก็จะยิ่งทำให้คุณอยากใส่มันไปออกกำลังกายมายิ่งขึ้นด้วยนะ

5. เชื่อในควมรัก

ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วเรื่องนี้ต้องใช้แรงใจมากเลยล่ะ โดยเฉพาะในสังคมที่รักง่ายหน่ายเร็วอย่างทุกวันนี้ การจะเชื่อมั่นในความรักอาจไม่ง่ายเลย

แต่เชื่อเหอะ โลกใบนี้ยังมีคนดีๆสำหรับคุณแน่นอน ลองเปิดใจ และลองให้โอกาสใครซักคนเข้ามาในชีวิตดู เลิกกลัวการอกหักเกินเหตุ คนเราก็อกหักทั้งนั้น มันเป็นส่วนหนึ่งของการไปสู่ความรักที่ดีและทำให้เราโตขึ้นอีกด้วยนะ

6. ปฏิบัติกับคนอื่นอย่างที่เค้าปฏิบัติกับคุณ

ข้อนี่อาจฟังดูรุนแรงไปบ้าง แต่การทำแบบนี้จะทำให้คุณต้องเจอเรื่องปวดใจน้อยลงแน่นอน ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องรู้สึกเสียความรู้สึกบ่อยๆเพราะการกระทำของคนอื่น เพราะว่าคุณยอมให้เค้ามากเกิน หรือพูดง่ายๆก็คือดีกับเค้ามากเกินไป ตูนอยากให้คุณหยุดครับ แล้วลองกลับมารักตัวเองให้มากขึ้น หลายคนอาจจะนึกเถียงในใจว่าบางครั้ง การที่จะได้ใจคนหรือสนิทกับใครสักคนก็ต้องยอมให้ก่อน ใช่ครับ ตูนไม่เถียง แต่ตูนเชื่อว่าทุกอย่างมีลิมิต และตัวคุณเองเท่านั้นที่จะตอบเรื่องนี้ได้ ลองถามใจตัวเองดูมั้ยครับ?

7. ลงทุนกับสกินแคร์ดีๆสักเซ็ต

สุภาษิตไทยที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” ยังใช้ได้ดีกับทุกเรื่อง เชื่อเถอะครับ เรื่องผิวก็เช่นกัน ถ้าคุณกำลังมาหาวิธีที่จะทำให้คุณดูดีขึ้น และคนอื่นสังเกตเห็นได้ ตูนรับรองเลยว่าการดูแลผิวเป็นวิธีนึงที่เวิร์คที่สุด ในเมื่อหลายคนใช้เวลาเกืบครึ่งชั่วโมงทุกเช้า บรรจงแต่งแต้มเมคอัพลงไป แล้วทำไมผิวหน้าของเราจะไม่คู่ควรกับการทำความสะอาดให้เกลี้ยงเกลา บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น และปกปป้องริ้วรอยก่อนไว หรือจุดด่างดำต่างๆด้วยครีมกันแดดล่ะครับ? รับรองว่าเรื่องนี้ ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งมีชัยไปกว่าครึ่งนะครับ

8. อยู่คนเดียวให้เป็น

การอยู่คนเดียวให้เป็นเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะกับผู้หญิง

หลายๆคนอาจคิดว่าจะอยู่คนเดียวไปทำไม อยู่หลายคนสนุกกว่ากันตั้งเยอะ ทั้งแฟน ทั้งเพื่อนชั้นเต็มไปหมด แต่นับวันที่คุณโตขึ้น เพื่อนๆคุณต่างก็ต้องยุ่งกับธุระส่วนตัวของพวกเขาเช่นกัน และพอถึงวัยแต่งงานแล้วล่ะก็ อย่าหวังเลยที่เค้าจะมามีเวลามาจิ๊จ๊ะกินข้าว ชนดื่มกับคุณตลอด

กับแฟนก็เช่นกัน ถึงแม้คุณอาจจะมองไว้ว่าอยากฝากชีวิตไว้กับคนๆนี้ แต่เอาจริงๆแล้ว ไม่มีใครที่ไว้ใจได้เท่ากับตัวคุณเองอีกแล้วครับ วันนึงที่เค้าไม่อยู่แล้ว ตูนอยากให้ทุกคนอยู่ได้ ไม่รู้สึกเหมือนพิการเหมือนเสียอวัยวะสำคัญไปนะครับ

9. พยายามเพื่อสิ่งที่คนต้องการ

การที่เกิดมาเป็นคนใจร้อน หลายครั้งที่ได้ยินคนพูดว่า “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม” ก็มักจะลงเอยด้วยการรอเฉยๆไม่ทำอะไรเลย ทำให้บางครั้งรู้สึกอึดอัดพิกล ตูนคิดว่าถ้าเราอยากได้อะไรอย่างหนึ่ง เราก็ควรจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อไปให้ถึงจุดที่เราต้องการไม่ถูกหรอครับ? ถึงแม้ว่าผลสุดท้ายนั้นเราจะล้มเหลว แต่มันก็ดีกว่าการที่ไม่เคยพยายามทำอะไรเลยเพื่อสิ่งที่เราต้องการนะ

10. หาซื้อที่นอนดีๆ.

เชื่อมั้ยว่าเราใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตไปบนเตียง ไม่ว่าจะนอน อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์หรือทำอะไรก็เถอะ

สุขภาพที่ดีเริ่มจากการนอน การหาเตียงดีๆจะลดความเสี่ยงกับปัญหากระดูกที่จะตามมาในอนาคตเมื่อเราแก่ตัวลง และการเปลี่ยนเตียงนอนที่เราเคยใช้ตอนวัยเด็กเป็นเตียงใหม่ ที่ขยับไซส์ขึ้นตามไวก็จะช่วยให้คุณรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของวัย และจริงจังมากขึ้นกับชีวิตด้วย

สำหรับคนที่อายุ 20ปลายๆ:

11.รู้จักเก็บออมเพื่อวัยเกษียณ

ในวันที่อายุเรายังขึ้นต้นด้วยเลข2 หลายคนคงคิดว่ายังมีเวลาเหลืออีกตั้งนานกว่าจะถึงวันเกษียณ ถึงแม้คนเราจะชอบพูดว่าอยุเป็นเพียงตัวเลข แต่บอกเลย29 กับ30นี่มันให้ฟีลลิ่งต่างกันเยอะนะครับ

พออายุถึง30นี่ ยินดีด้วยครับ คุณมาถึงครึ่งทางของชีวิตทำงานแล้ว แล้วบัญชีเงินเก็บเพื่อการเกษียณล่ะครับ ถึงไหนแล้วเอ่ย?

12. เริ่มมองหาประกันสุขภาพได้แล้ว

เรื่องสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่เราควรใส่ใจมากขึ้น ตามอายุที่มากขึ้นทุกๆปี แม้ว่าวันนี้คุณจะยังอายุน้อยอยู่ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงอะไร แต่การเสียเงินรักษาตัวเองเวลาป่วยเนี่ยครั้งนึงเนี่ย แค่เข้าโรงพยาบาลเพียงคืนสองคืน อาจะใช้เงินมากกว่าเงินเดือน1เดือนของคุณได้เลยนะ กันไว้ดีกว่า(เช่นเคย)

ที่สำคัญมองหาประกันสุขภาพที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และบางแพ็คเกจยังสามารถนำเก็บเบี้ยประกันเป็นเงินออมได้อีกด้วยนะ ยิงปืนัดเดียว ได้นก3ตัวกันไปเลย

13. เริ่มคิดถึงเรื่องลงหลักปักฐาน (แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่นิ่งๆ)

ถ้าคนโชคดีที่ได้เจอคนๆนั้นในชีวิตคุณแล้ว อย่าปล่อยเค้าไปเชียวล่ะ(อายุยิ่งมากยิ่งยากนะครับ) โฟกัสมากขึ้นเรื่องการสร้างความก้าวหน้าในชีวิตแบบคู่ชีวิตดีกว่า

แต่ถ้าคุณกำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบวาบหวามตามอารมณ์และแอลกอฮอล์ที่ดื่มในขณะนั้น หรือตามอารมณ์เพียงชั่วครั้งชั่วคราว ลองกลับมาถาตัวคุณเองดู ว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะนำคุณไปสุดจุดไหน แล้วจุดนั้นเป็นจุดที่คุณอยากไปถึงจริงๆหรือเปล่า หรือเพียงเพราะวิวข้างทามันสวยดี

14. ทำอะไรก็ได้อย่างหนึ่งที่คนกลัวในทุกๆเดือน

ส่วนที่ดีที่สุดของการมีอายุมากขึ้น คือการมีจิตใจที่เข้มแข็งและสงบมากขึ้น ไม่มีอะไรหรอกที่วิเศษและน่าตื่นต้นทีจะเกิดขึ้นใน Comfort Zone ของคุณ(ก็อยู่มาตั้งกี่ปีแล้วล่ะครับ) แม้ว่าการลองทำอะไรใหม่ๆ หรืออะไรที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดจะทำให้คุณวุ่นวายใจ แต่ขอให้คุณลองเชื่อNike ดู (ไม่ใช่แค่ใส่รองเท้าของเค้านะครับ) “Just Do It” ครับ

15. ไตร่ตรองเรื่องราวอดีต แต่จดจ่ออยู่กับอนาคต

เรามักเป็นนักวิจารณ์ที่แย่ที่สุดของตัวเราเสมอแหละครับ(ใครๆก็ต้องเข้าข้างตัวเองเป็นเรื่องธรรมดาทั้งนั้น) บางครั้งเราก็ติดอยู่กับคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “ถ้า” ของชีวิต เช่น ถ้าตอนนั้นไม่ทำแบบนั้น ถ้าตัดสินใจต่างไปจากตอนนั้น การเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากอดีตเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ต้องรู้จักนำข้อผิดพลาดนั้นมาพัฒนาให้อนาคตเราไม่ผิดซ้ำและดีขึ้นด้วย เลิกติดอยู่กับความผิดพลาดครั้งก่อน และตั้งใจทำปีนี้ให้ดีกว่าจะดีกว่าครับ

เขียนมาถึงจุดนี้ หวังว่าทุกคนคงจะได้รับแรงบันดาลใจ และเป้าหมายในปีนี้ไปได้คนละไม่มากก็น้อยนะครับ ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูน่าเบื่อไปบ้าง แต่ตูนคิดว่าปีใหม่ เป็นโอกาสที่ดีนะครับที่เจอได้เริ่มต้นอะไรใหม่ เริ่มเป็นคุณคนใหม่ ที่ดีขึ้นกว่าคุณคนเดิม และดีขึ้นไปอีกในทุกๆปี :)